LH Bank เผยผลการดำเนินงานปี 2565 กำไรเติบโต 14% สินเชื่อด้อยคุณภาพต่ำเพียง 2.09% ชูกลยุทธ์ปี 2566 รุกขยายพอร์ตสินเชื่อกลุ่ม Higher yield เน้นฐานลูกค้ารายย่อยเติบโตผ่าน Digital Platform
นายฉี ชิง-ฟู่ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล เอช ไฟแนนซ์เชียล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ LHFG เผยว่าภาพรวมเศรษฐกิจไทยปี 2566 มีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องราว 3.7% โดยได้แรงหนุนจากภาคการท่องเที่ยวการจ้างงานและการลงทุนภาคเอกชนที่ปรับตัวดีขึ้น และคาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะทยอยปรับลดลงตามราคาพลังงาน อย่างไรก็ตาม ยังต้องเฝ้าระวังปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ ที่อาจกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย เช่น การฟื้นตัวของรายได้ภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจบางกลุ่มที่เปราะบาง การดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดของประเทศคู่ค้าหลัก โดยเฉพาะสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป รวมถึงความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์จากความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน
กลยุทธ์ปี 2566 ของกลุ่มธุรกิจทางการเงินแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ เน้นการนำเสนอผลิตภัณฑ์ทางการเงินและการลงทุนที่ครบวงจรเหมาะสมกับสถานการณ์และจังหวะการลงทุนให้กับลูกค้าผ่าน Digital Platform รวมถึงกลยุทธ์การ Synergy ภายในกลุ่มธุรกิจทางการเงินและ CTBC บริษัทแม่ของกลุ่มธุรกิจทางการเงินแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ เพื่อร่วมกันพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่ม รวมทั้งขยายฐานลูกค้า ที่ทำธุรกิจต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น (Trade Finance) นอกจากนี้ มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์สินเชื่อรูปแบบใหม่ ๆ และสินเชื่อสำหรับกลุ่มลูกค้าที่มีศักยภาพแต่ไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุน
ผลการดำเนินงานปี 2565 กลุ่มธุรกิจทางการเงินแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ มีกำไรสุทธิ 1,579 ล้านบาท หรือเติบโตร้อยละ 14.1 เมื่อเทียบกับปี 2564 ส่วนใหญ่เป็นการเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ย สำหรับด้านการขยายตัวของสินเชื่อเติบโตร้อยละ 23 ซึ่งเติบโตทุก Segments โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้ารายย่อยมีอัตราการเติบโตสูงกว่าร้อยละ 47 กลุ่มลูกค้า SME เติบโตร้อยละ 35 และกลุ่มลูกค้าไต้หวันเติบโตสูงถึงร้อยละ 95 และระดับ NPL อยู่ในระดับต่ำ ที่ร้อยละ 2.09 ลดลงจากปีที่แล้วที่ร้อยละ 2.44 ทั้งนี้ ธนาคารได้ตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญ เพื่อรองรับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นของลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ทำให้ NPL Coverage อยู่ที่ร้อยละ 221
นางสาวชมภูนุช ปฐมพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์จำกัด (มหาชน) หรือ LH Bank เผยว่า จากการ Disruption ในอุตสาหกรรมการให้บริการทางการเงินธนาคารมุ่งพัฒนาโมเดลทางธุรกิจรูปแบบใหม่ ๆ ที่ใช้เทคโนโลยีในรูปแบบต่าง ๆ มาให้บริการทางการเงิน โดยหลักสำคัญในการจัดทำแผนกลยุทธ์ คือ ความยั่งยืน การเสริมสร้างความสามารถทางดิจิทัลความยืดหยุ่น และความเสี่ยงที่เหมาะสม
ผลการดำเนินงานการบริหารจัดการกองทุนปี 2565 บริษัทมีขนาดกองทุนที่อยู่ภายใต้การบริหารจัดการนับรวมกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REITs) มีมูลค่าประมาณ55,658 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 13 จากปี 2564 สำหรับกองทุนส่วนบุคคล (Private Fund) มีขนาดกองทุนอยู่ที่ 14,223 ล้านบาท เติบโตร้อยละ 51 ส่วนกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (PVD) มีขนาดกองทุนอยู่ที่ 6,046 ล้านบาท เติบโตร้อยละ 4 กองทุนเปิด แอล เอช โกรท ชนิดสะสมมูลค่า เป็นกองทุนที่เน้นลงทุนในหุ้นที่มีอัตราการเติบโตสูง ซึ่งผลการดำเนินงาน ณ 31 ธันวาคม 2565 ในช่วง 3 เดือน ทำได้ 7.27% 6 เดือนทำได้ 8.46% หรือ 1 ปี ทำได้ 6.36% (%ต่อปี) ซึ่งดีกว่าเกณฑ์มาตรฐาน โดยเกณฑ์มาตรฐานทำได้ 5.19% 7.65% และ 3.54% (%ต่อปี) ตามลำดับ
นายกานต์ อรรถธรรมสุนทร กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LH Securities เผยว่า แผนกลยุทธ์ปี 2566 ว่า บริษัทยังคงมุ่งเน้นการเติบโตอย่างยั่งยืน ด้วยการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อยกระดับความสามารถในการแข่งขันและเพิ่มความสะดวกให้กับลูกค้า นอกจากนี้ยังมุ่งต่อยอดบริการทางการลงทุนต่อลูกค้ากลุ่มใหม่ ๆ ผ่านการใช้ Data Analytics ควบคู่ไปกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ การลงทุนให้ตอบรับทุกสภาวะของตลาดการลงทุน เพื่อสร้างผลตอบแทนที่เหมาะสมแก่ลูกค้า
ผลการดำเนินงานปี 2565 บริษัทมีรายได้ค่านายหน้ารวม 186.1 ล้านบาท ลดลงจากปี 2564 ตามปริมาณการซื้อขายของตลาดหุ้นที่ซบเซาเมื่อเทียบกับฐานที่สูงในปี 2564 อย่างไรก็ดี บริษัทมีรายได้ดอกเบี้ยรับและเงินปันผล รวม 414.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.8 จากปี 2564 ส่งผลให้บริษัทมีกำไรสุทธิจำนวน134.6 ล้านบาท
#LHBank #ธนาคารแห่งประเทศไทย #StockReview #ข่าวธุรกิจ #ข่าวเศรษฐกิจ